18. ทำไมถึงต้องปราบมาร?

ทำไมถึงต้องปราบมาร?

by Pittaya Wong on 6 October 2017

www.meditation101.org

พระพุทธเจ้ามารนี่แหละเป็นวายร้าย คอยสร้างปัญหาให้กับพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ และเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย อยู่เสมอๆ ขนาดสมเด็จพระพุทธโคดมทรงปรารถนาจะยืดพระชนมายุให้ยาวนานออกไปอีก พระพุทธเจ้ามารก็คอยขวางคอยกันเอาไว้ ทำให้สมเด็จพระพุทธโคดมทรงเป็นพระพุทธเจ้าในภาคมนุษย์ได้เพียงแค่ 45 พรรษา ซึ่งไม่คุ้มกับการสร้างบารมีอันยาวนานถึง 20 อสงไขย กับ หนึ่งแสนมหากัป อย่างไรก็ตาม ขนาดพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์เข้านิพพานแล้ว ประทับเข้านิโรธสมาบัติอยู่ในพระนิพพานเมืองแก้ว บางคราวพระพุทธเจ้ามารจากมารโลกก็ยกพวกบุกเข้ามาก่อกวน พระพุทธเจ้าพระอรหันต์ที่เข้านิโรธอยู่ก็แตกถอยกระเจิงกันไป พระพุทธจักรพรรดิซึ่งประจำการอยู่ในแต่ละเขตของพระนิพพานเมืองแก้ว ต้องพุ่งออกมาปะทะชนกับพระพุทธเจ้ามาร จนเสียกำลัง พระวรกายหดเล็กลง พระพุทธเจ้าพระอรหันต์ก็รีบเติมประดากลับคืนให้พระพุทธจักรพรรดินั้น ส่วนพระพุทธเจ้าผู้ใหญ่ และพระพุทธจักรพรรดิผู้ใหญ่ต้องออกจากที่เพื่อมาช่วยปะทะและปกป้อง พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ผู้อ่อนกว่า  แล้วพระพุทธจักรพรรดิก็ตะลุมบอนสู้กับพระพุทธเจ้ามาร หรือพระจักรพรรดิมารที่บุกเข้ามา ออกมารุมสู้กัน จนกว่าฝ่ายมารจะล่าถอยกลับไป ซึ่งนี้ก็เป็นความเลวร้ายของพวกมาร เป็นพระพุทธเจ้าเป็นพระอรหันต์แล้ว ถ้าพระบารมีน้อย มีอยู่หลักสิบอสงไขย บางทีมารบารมีแก่ๆ นับร้อยนับพันอสงไขยบุกเข้ามา ก็ยากที่จะต่อกรกัน หลวงพ่อสดท่านจึงดำริที่จะปราบมาร และสร้างบารมีต่อไปให้แก่กล้านับร้อยนับพันอสงไขย ไม่ด่วนลาเข้านิพพาน เพราะท่านเห็นภัยต่างๆ เหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ภัยจากปวงมารในพระนิพพานเมืองแก้วก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ เพราะพระนิพพานเมืองแก้วมีมวลธรรมเป็นกำแพงค่อนข้างหนา ถ้าพระพุทธเจ้ามาร หรือจักรพรรดิมารฝ่าเข้ามา ก็จะรู้สึกอ่อนแรงลง และเมื่อเริ่มผ่านเข้ามาในมวลธรรมกำแพงพระนิพพาน พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ และพระพุทธจักรพรรดิ ในเมืองนิพพาน ก็จะทราบล่วงหน้า จึงเตรียมตัวคุ้มกันเอาไว้อยู่ก่อน ส่วนมารที่บุกเข้ามา บ้างก็ถึงกาลแตกดับเมื่อรบกันอยู่ในเมืองนิพพาน แต่บางองค์ก็มาก่อกวนและหนีกลับเมืองมาร (มารโลก) ไปได้ อย่างไรก็ตาม ก็จะเห็นได้ว่ายังเป็นภัยอยู่

มีคนถามว่าถ้าในเมื่อขนาดพระนิพพานเมืองแก้วยังไม่ปลอดภัยอย่างนี้ แล้วจะสร้างบารมี ปฏิบัติธรรมเข้านิพพานไปทำไม คำตอบคือ ถึงพระนิพพานจะมีภัยจากพระพุทธเจ้ามาร แต่ก็ยังมีความสุขมากกว่าในภพ 3 มากมายนัก ภัยอันตรายในภพ 3 มีมากกว่ายิ่งนัก เพราะฉะนั้น มนุษย์ทั่วไปก็ควรสั่งสมบุญสร้างบารมีเข้านิพพานไปตามปกติ ส่วนทีมงานของหลวงพ่อสด มีหน้าที่เฉพาะกิจที่จะปราบมาร เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ที่ต้นเหตุ ซึ่งหลวงพ่อสดและทีมงานของท่านก็เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ต้นฯ พระพุทธเจ้าอื่นๆ และพระพุทธจักรพรรดิองค์เก่าๆแก่ๆ อวตารกลับชาติมาเกิดเพื่อแก้ไขปัญหาให้ส่วนรวม

มีคนถามมาครับว่า "นิพพานแล้วสูญ" จะดีกว่าหรือเปล่า ถ้าเป็นแบบนี้ ผมขอตอบเป็นการส่วนตัวนะครับว่า การนิพพานแล้วสูญ ก็เป็นไปได้ ถ้าต้องการอย่างนั้น แต่ก็จะไม่ได้เสวยสุข เหมือนพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ที่ได้เข้านิพพานอยู่ในนิโรธสมาบัติครับ แล้วก็จะไม่ได้ "เป็นกำลัง" ให้กับฝ่ายพระ(นิพพาน) อีกต่อไปเช่นกันครับ ซึ่งการนิพพานแบบนี้เป็นการ "ตัดช่องน้อยแต่พอตัว" แต่เราก็ไม่ว่ากันครับ ผู้ที่มีหน้าที่ปราบมารก็ทำหน้าที่ของท่านกัน ไม่ได้หมายความว่าทุกๆคนจะต้องมาปราบมารนะครับ พระอรหันต์ที่นิพพานแบบดับสูญแล้ว ก็จะเหลือเพียง "มวลธรรม" แห่งตนที่กระจายตัวอยู่ ไม่มีตัวไม่มีตนอีกต่อไป

หมายเหตุ: ถ้าท่านมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาทำสมาธิ แล้วถามดวงแก้วที่แสดงอยู่บนหน้าเพจนี้ครับ