26. พระจักรฯจัดงาน & พระจักรฯจัดวิชชา

พระจักรฯ จัดวิชชา & พระจักรฯ จัดงาน

โดย Pittaya Wong

23 เมษายน 2562

www.meditation101.org



จากที่เราได้อธิบายไปแล้วว่า พระจักรฯ นั้นมีหน้าที่ 2 ฝ่ายหลักๆ คือ “ฝ่ายวิชชา” และ “ฝ่ายงาน” คือฝ่ายวิชชาทำงานละเอียด ในขณะที่ฝ่ายงานทำงานหยาบ หลายๆท่านอาจคิดว่าวิชชาเพียงอย่างเดียวประเสริฐที่สุด อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์นั้นดูเหมือนว่า ทั้งวิชชาและงาน ควรจะเกื้อกูลกัน สนับสนุนกันและกัน ควบคู่กันไป หากพระจักรฯ ฝ่ายวิชชา มุ่งที่จะทำงานในวิชชาให้สำเร็จ ก็จะชำนาญเฉพาะเรื่องวิชชา ปล่อยวางเรื่องภายนอก ทำงานภายในสมาธิ โดยมิได้ทำกิจภายนอกมากเท่าใด แต่พระจักรฯที่บำเพ็ญบารมีมักจะพบว่า บุญบารมีจากการทำวิชชาหรือทำสมาธิเพียงอย่างเดียวนั้นยังไม่เพียงพอ เพราะบุญจากการเจริญสมาธิภาวนา หรือเจริญวิชชานั้น ให้อานิสงส์เฉพาะตัว นอกจากนี้ ในการทำวิชชานั้น บางครั้งจำเป็นต้องใช้บุญบารมีมาก พระจักรฯที่ทำวิชชาเพียงอย่างเดียวอาจจะหมดเปลืองบารมีไปมากกับบางเรื่องบางอย่างในการทำวิชชา จึงเป็นเรื่องที่พบได้โดยทั่วไป ที่พระจักรฯ หรือแม้แต่พระองค์ธรรม ก็เพียรพยายาม ที่จะทำกิจอันเป็นประโยชน์ต่างๆ เพื่อสร้างบุญบารมีให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการทำวิชชา โดยบำเพ็ญบุญในรูปแบบต่างๆ ด้วยกายมนุษย์ มิใช่การเจริญภาวนาทำวิชชาแต่เพียงเท่านั้น

เมื่อกล่าวถึงการจัดวิชชาและการจัดงานของพระจักรฯ สามารถยกตัวอย่างได้ว่า พระจักรฯ ที่ปรารถนาจะทำงานโดยใช้วิชชาแต่เพียงอย่างเดียว ต้องใช้บุญบารมีสิ้นเปลืองมาก เพื่อ “จัดผัง” หรือ “ตั้งผัง” ให้งานสำเร็จ รวมถึงการ “ตามคน” และ “ตามสมบัติ” มาหล่อเลี้ยงงาน ถ้าหากพระจักรฯ จัดวิชชาเพียงอย่างเดียวเพื่อให้งานสำเร็จ อาจจะต้องใช้กำลังวิชชา 10 ใน 10 ส่วน แต่ถ้ามีพระจักรฯ ฝ่ายงาน คอยจัดงานรองรับ หรือว่าพระจักรฯที่จัดวิชชา แบ่งเวลาไว้จัดงานด้วย อาจจะใช้กำลังวิชชาเพียง 5 ใน 10 ส่วน และออกแรง ออกความคิดสติปัญญาจัดงานอีก 5 ใน 10 ส่วน ก็จะ “ประหยัดบุญบารมี” และ “ประหยัดวิชชา” และ “ประหยัดละเอียด” ไปได้มาก แต่พระจักรฯ ก็ต้อง “ออกแรง” จัดงานเพิ่มเติมไป โดยนัยนี้เราเรียกว่า “จัดงานกับจัดวิชชาให้ตรงกัน” เมื่อทำงานสำเร็จแล้ว ได้บุญบารมีมา ก็แบ่งกันทั้งในฝ่ายวิชชา และฝ่ายงาน เป็นอัน “กำไรบุญบารมี” ด้วยกันทุกฝ่าย

ยกตัวอย่างเรื่องจัดวิชชากับจัดงานเช่น สมมติว่ามีก้อนหินก้อนอิฐอยู่ในร้านขายวัสดุก่อสร้าง หากพระจักรฯต้องการใช้ก้อนอิฐสร้างกุฏิ พระจักรฯ ที่จัดวิชชา ก็จะใช้กำลังวิชชาเต็ม 10 ส่วน จัดวิชชา ดลใจให้ลูกศิษย์ไปซื้อก้อนอิฐแล้วเอามาถวายที่วัด ดังนี้ พระจักรฯ ก็จะได้ก้อนอิฐมา โดยทำสมาธิอยู่เงียบๆ อาจจะหมดบุญบารมีไปกับการจัดวิชชาดังนี้ประมาณ 100 หน่วย แต่ถ้าหากพระจักรฯ จัดวิชชา โดยใช้กำลังวิชชา 5 ส่วน แล้ว จัดงานเพิ่ม ด้วยการป่าวประกาศบอกลูกศิษย์โดยทั่วไปว่ากำลังต้องการก้อนอิฐสำหรับสร้างกุฏิ เมื่อลูกศิษย์รับทราบแล้ว ก็ไปหาซื้อก้อนอิฐมาถวาย ดังนี้ พระจักรฯ อาจจะหมดบุญบารมีไปกับการจัดวิชชาเพียง 35 หน่วย แต่ต้องออกแรงในการทำงาน เพื่อให้งานสำเร็จเหมือนๆ กัน ดังนี้ เรียกว่า “จัดวิชชากับจัดงานตรงกัน”

จะเห็นได้ว่า ทั้งการทำวิชชา และการทำงาน ล้วนมีความสำคัญ วัดบางแห่งสร้างด้วยวิชชา สำเร็จด้วยวิชชา หมดเปลืองบารมีไปมาก วัดบางแห่งที่ไม่รู้วิชชา อาจจะสร้างด้วยงานล้วนๆ ได้กำไรบุญบารมีมากกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่างานจะสำคัญไปกว่า “วิชชา” แต่ก็ใช่ว่าเราควรจะมองข้าม “งาน” เพราะถ้าหากพระจักรฯ หรือแม้แต่พระองค์ธรรม สามารถจัดได้ทั้งวิชชา และงาน โดยจัดให้ตรงกัน ย่อมเป็นผลดีมากกว่า โดยเฉพาะบางแห่งที่อาจจัดวิชชากับจัดงานขัดกัน ทำให้เปลืองกำลังวิชชาและเสียงานโดยใช่เหตุ