28. สุวกิจ

สุวกิจ

โดย พระจักรฯพิรจักร ทิศุธิวงศ์ แห่งภาคทอง (โพธิวงศ์)

(นามเดิม/นามปากกาพิรจักร สุวพรรดิเดชา, พิทยา ทิศุธิวงศ์, Pittaya Wong)

ฉบับปรับปรุงล่าสุด เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2564

 

     1.     กราบทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าตลอดหมดโลกธาตุทรงเจริญอิทธิบาท 4 เพื่อยืดอายุขัยออกไปอีก และหากจะทรงเข้าพระนิพพาน ก็เข้านิพพานแบบไม่ถอดกาย คือไม่จำเป็นต้องดับขันธ์ คล้ายสมเด็จพระพุทธโคดมทรงเสด็จเยือนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อโปรดพระพุทธมารดา ด้วยกายมนุษย์ ไม่ต้องถอดกายทิพย์เสด็จไป ดังนี้แล้ว พระวรกายจะแกร่งแน่นด้วยธรรมธาตุ

     2.     กราบอาราธนาพระปัจเจกพุทธเจ้าตลอดหมดโลกธาตุทรงเจริญอิทธิบาท 4

     3.     กราบอาราธนาพระปัจเจกพุทธเจ้าตลอดหมดโลกธาตุทรงแสดงธรรม

     4.  กราบอาราธนาพระพุทธเจ้า และพระปัจเจกพุทธเจ้า ทรงเรียกรัตนะ 7 ขึ้นมาครอง มี จักรแก้วและ แก้วมณีเป็นอาทิ   

     5.   ทูลเชิญพระเจ้าจักรพรรดิราชตลอดหมดโลกธาตุฟังธรรมกับพระพุทธเจ้าผ่านแก้วมณี หรือไปฟังธรรมด้วยตนเองพร้อมพสกนิกรเฉพาะพระพักตร์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยการโดยสารทางจักรแก้ว   

     6.   ทูลเชิญพระเจ้าจักรพรรดิราชตลอดหมดโลกธาตุออกผนวชเป็น พระสมณจักรพรรดิอยู่ในพระศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในจักรวาลเดียวกัน หรือตั้งพระศาสนาขึ้น หากยังไม่มีพระพุทธศาสนาในจักรวาลนั้นๆ

     7.   กราบอาราธนาพระพุทธเจ้าและพระปัจเจกพุทธเจ้า ทรงตั้ง “พุทธสภา” ผ่านแก้วมณี

     8.  กราบอาราธนาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า, พระปัจเจกพุทธเจ้า, พระขีณาสพ, และพระเจ้าจักรพรรดิราช ไปมาหาสู่กันด้วยการโดยสารทาง จักรแก้วซึ่งมี “แก้วมณี” ที่ได้รับวิชชาแล้ว คอย “นำร่อง” ประดุจระบบ GPS ในโลกมนุษย์เรา

     9.     อัญเชิญแก้วบรมจักรพรรดิใต้แผ่นดินวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ขึ้นสู่ผืนปฐพี

     10.   ครูวิชชาส่งวิชชาผ่านแก้วมณี เพื่อติดต่อสื่อสารกับพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ และพระสมณจักรพรรดิราช

     11.   กราบอาราธนาพระพุทธเจ้า, พระปัจเจกพุทธเจ้า, และพระสมณจักรพรรดิราช มาประชุมกัน ณ มงคลจักรวาล เพื่อประชุมวิชชา และตั้งระบบเครือข่ายแก้วมณี พร้อมติดตั้ง “สายฆา

     12.   ครูวิชชา ตั้งระบบเครือข่ายแก้วมณี เพื่อสร้าง “มณีเขต” โดยทำแผนที่อาณาโลกธาตุขึ้น โดยมีอายตนนิพพานของมงคลจักรวาลเป็นศูนย์กลาง

     13.   พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระสมณจักรพรรดิราช เสด็จกลับยังโลกเดิมแล้วปกครองกันตามมณีเขต

     14.  พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระสมณจักรพรรดิราช และครูวิชชา ส่งวิชชาถึงกันและกันภายในเครือข่ายมณีเขต หล่อเลี้ยงทั่วอาณาโลกธาตุ

     15.  พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ พระสมณจักรพรรดิราช และครูวิชชา ประชุมวิชชา และเดินวิชชา พร้อมกัน ทั่วทั้งมณีเขต

     16.  พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระสมณจักรพรรดิราช และครูวิชชา รบกับภาคมาร และเก็บสลายวิชชาของฝ่ายมาร กระทั่งหมดสิ้นไปจากโลกธาตุ

     17.  เดินวิชชานำจักรวาลต่างๆ ทั่วโลกธาตุ มาซ้อนกันเป็นภพซ้อนภพ รวมกันเป็นหนึ่งเดียว

     18.  กราบอาราธนาพระต้นธาตุต้นธรรมฝ่ายขาวทรงจัดเรียงอายตนะนิพพาน แบบภพซ้อนภพ พร้อมแก้ไขปัญหาการปนเป็นในพระนิพพาน ด้วยการจับสึกพระธรรมกาย แล้วให้ความคุ้มครองเมืองนิพพานทุกเมืองในคราวเดียวกัน

     19.  ตรวจรหัสพันธุกรรมพระทันตธาตุขององค์สมเด็จพระพุทธโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า จากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ แล้วทำสำเนารหัสพันธุกรรม อาราธนาพระพุทธโคดมกลับลงมาประสูติใหม่ รวมถึงพระพุทธเจ้าพระองค์เก่าๆ ก่อนๆ โดยมีสมเด็จองค์ปฐมบรมครู เป็นประธาน

     20.  เมื่อสมเด็จพระพุทธโคดมทรงย้อนกลับมาประสูติในโลกมนุษย์แล้ว ให้กราบทูลอาราธนาทรงเจริญอิทธิบาท 4 โดยแบ่งคณะผู้กราบทูลอาราธนาเป็น 4 ฝ่าย คือฝ่าย พระภิกษุ, พระภิกษุณี, อุบาสก, และอุบาสิกา

     21. โลกค่อยๆกลายเป็นพุทธเกษตร ไม่มีช่องว่างระหว่างแต่ละพุทธันดร พระพุทธเจ้าตรัสรู้ต่อเนื่องกันไม่ขาดสาย จักรวาลไม่แยกห่างจากกัน

     22. แต่งองค์กายสิทธิ์ในดวงแก้วมณีจักรพรรดิของแต่ละจักรวาลให้เป็น "พระพุทธจักรฯ" แล้วเชื่อมเข้ากับภพพระนิพพาน เพื่อให้สามารถสื่อสารกับพระนิพพานได้ โดยตั้งแก้วมณีของเมืองพระนิพพานเป็นศูนย์ควบคุมกลาง

     23.  จัดงาน “มหาสังฆทานโลก” โดยมีสมเด็จองค์ปฐมฯบรมพุทธเจ้าทรงเป็นประธาน, และมีพระพุทธเจ้า, พระปัจเจกพุทธเจ้า, พระขีณาสพ และพุทธบริษัท 4 มาร่วมงาน เพื่อให้ได้บุญมากพอสำหรับนำบุญไป “จัดผัง” ต่างๆ รวมถึงแก้ไขปัญหาให้กับธาตุธรรม

     24. พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระสมณจักรพรรดิราช ครูวิชชา เดินวิชชาเก็บสลายบาป สลายเมืองนรก สลายมารโลก สลายโปรแกรมอบายภูมิ เหลือเพียงแต่นิพพาน สวรรค์ และโลกที่เป็นประดุจพุทธเกษตร กระทั่งภพภูมิทั้งหมดกลายเป็นหนึ่งเดียวที่เป็นเอกันตบรมสุขสุคติภพ ไม่มีความทุกข์กาย ไม่มีความทุกข์ใจ ไม่มีกิเลส ไม่มีภาคมาร บรรลุถึงที่สุดแห่งธรรม เป็นอันจบสิ้น “สุวกิจ” ดังฉะนี้แล. 

 

    หมายเหตุ: แผนงานนี้ ข้าพเจ้าพระจักรฯพิรจักร ทิศุธิวงศ์แห่งภาคทอง (โพธิวงศ์) ได้ "บอกงาน" ไว้ทางเฟสบุ๊คเป็นระยะๆ รวมถึงรจนาจดหมายบอกงานถึงครูวิชชาบางท่านในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คือ พ.ศ. 2556 ถึง พ.ศ. 2562 โดยมิได้ขโมยงาน หรือคัดลอกเลียนแบบงานมาจากใครอื่น แต่เป็นงานที่ข้าพเจ้าดำริขึ้นเองทั้งหมด หากท่านสงสัยว่าสิ่งที่ข้าพเจ้ายืนยันนี้เป็นความจริงหรือไม่สามารถลอง "เสี่ยงญาณ" เพื่อตรวจสอบดูได้ โดยทำในขณะที่ปราศจากอิทธิพลจากวิชชาของผู้อื่น เพื่อมิให้โดนหลอกรู้หลอกญาณ หรือจะ "ตรัสรับรอง" ใน "ที่ประชุมญาณ" ก็ได้ ถ้าหากตรัสไม่เป็นจริง โอษฐ์ก็จะระเบิดหรือปริแตกได้ครับ

    

อัพเดทเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 14:00 น.

อัพเดทล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เวลา 13:58 น.
(ตามวันเวลาประเทศไทย)

 

     เรียนทุกท่านทราบครับ

เรื่องแผนงาน "สุวกิจ" นั้นผมเปิดเผยเป็นครั้งแรกต่อ คุณชรีรัช ทศรัตน์ ซึ่งเป็นผู้ประสานงาน (คล้ายๆ เลขาฯ) ของท่านธัมมชโย ซึ่งเธอน่าจะได้นำไปเล่าให้ท่านธัมมชโยทราบ ต่อมาท่านธัมมชโยจึงได้ทำการบางอย่าง ส่วนวันที่ผมบอกงาน นั้นผมพิมพ์รายงานเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ซึ่งผมทิ้งเอาไว้ที่วัดมงคลธรรมกายาราม จ.เชียงราย ถ้าจะเช็คดู ต้องเปิดคอมพิวเตอร์อ่านดูรายงานนั้นครับ

ส่วนว่า ที่ท่านธัมมชโยจะเดินงาน สาวดึงเอาจักรวาลต่างๆ มาชิดรวมกัน เห็นว่าจะเป็นงานส่วนดำริของท่านธัมมชโย ที่ต่อเนื่องมาจากการบอกงานของผม ผมจึงขอเปลี่ยนวิธี เป็น "ภพซ้อนภพ" ในทำนองเดียวกับการ นำอายตนนิพพาน มาซ้อนอยู่ในกันและกัน แต่เราทำกับภพที่เหลือ ทั้งอรูปภพ รูปภพ กามภพ เมื่อสรรพสัตว์เวียนว่ายตายเกิด ก็หลุดออกจากโลกมนุษย์ เข้ามาอยู่ในรูปภพ อรูปภพ กามภพ (สวรรค์) ที่เราดึงมาซ้อนกัน เท่ากับเป็นการย้ายอพยพ ส่วนโลกแห่งอื่นก็ค่อยๆ หมดประชากรไป กระทั่งแตกสลายหายไป ส่วนนรก ก็รื้อถอนออกไป แล้วเราก็เติมธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ให้กับพระธรณี ในโลกของเรา คือมงคลจักรวาล หล่อเลี้ยงด้วยวิชชา ไม่ให้แตกสลายเหมือนโลกอื่น แล้วก็ขยายใหญ่ไปเรื่อยๆ เหมือนยุคกัปป์ไขขึ้น เพื่อรองรับประชากรจากโลกอื่นด้วย ดังนี้ มงคลจักรวาลก็จะเป็นแกนหลักของโลกธาตุ ส่วนโลกอื่น ที่ยังคงอยู่ ไม่แตกสลาย จะใช้วิธี ภพซ้อนภพ ดึงดูด แล้วคายออกมาเรียงกัน โดยไม่ต้องสาวเข้าหากัน ก็ได้ ดังนี้ ไม่ต้องใช้วิธีของท่านธัมมชโยครับ

 

พิรจักร ทิศุธิวงศ์ สุวพรรดิเดชา
www.meditation101.org

17 เมษายน พ.ศ. 2563